รีวิวซีรีส์ My Name (2021)
My Name ซีรีส์เกาหลีจาก Netflix ที่มาพร้อมกับความแอ็กชันเข้มข้นและการแสดงที่ทรงพลังจากนักแสดงนำ โดยเรื่องราวเต็มไปด้วยความแค้น การต่อสู้ และการค้นหาความจริง นำเสนอผ่านสไตล์ฟิล์มนัวร์ที่โดดเด่นด้วยฉากแอ็กชันสมจริงจนดึงดูดผู้ชมทั่วโลก
เรื่องย่อ
ซีรีส์เล่าเรื่องราวของ “ยุนจีอู” (รับบทโดย ฮันโซฮี) หญิงสาวที่ต้องการแก้แค้นหลังจากพ่อของเธอถูกสังหารต่อหน้าต่อตา ยุนจีอูได้ตัดสินใจร่วมมือกับ “ชเวมูจิน” (รับบทโดย พัคฮีซุน) หัวหน้าแก๊งค้ายาเพื่อตามหาคนร้าย แต่ในขณะเดียวกันเธอแฝงตัวเข้าสู่กรมตำรวจในฐานะสายลับสองหน้า ซึ่งนำไปสู่การเผชิญหน้ากับความจริงและความขัดแย้งในโลกที่เต็มไปด้วยสีเทา
ทีมนักแสดง
- ฮันโซฮี: ยุนจีอู สาวนักล้างแค้นที่มาพร้อมพลังและความทุ่มเท ฮันโซฮีได้รับคำชมอย่างมากจากการแสดงที่สมจริง ทั้งในบทบาทอารมณ์และฉากแอ็กชันที่เธอเล่นเองเกือบทั้งหมด
- พัคฮีซุน: ชเวมูจิน หัวหน้าแก๊งค้ายาที่ซับซ้อนและมีอำนาจ
- อันโบฮยอน: จอนพิลโด ตำรวจคู่หูของยุนจีอูที่ค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ในเส้นทางที่เต็มไปด้วยความลึกลับ
- คิมซังโฮ: ชากีโฮ หัวหน้าหน่วยตำรวจที่เป็นกุญแจสำคัญของเรื่อง
- อีฮักจู และ จางรยูล: ตัวละครสำคัญที่ช่วยเติมเต็มโลกของอาชญากรรมในเรื่อง
จุดเด่นของซีรีส์
1. การแสดงที่ยอดเยี่ยม
ฮันโซฮีเปลี่ยนบทบาทจากนักแสดงในซีรีส์โรแมนติกเป็นตัวละครที่แข็งแกร่งและดุดัน เธอฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และเพิ่มน้ำหนักตัวเพื่อทำให้บทบาทนี้สมจริงมากขึ้น การแสดงของพัคฮีซุนในบทหัวหน้าแก๊งก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยบุคลิกที่เยือกเย็นและลึกลับ
2. ฉากแอ็กชันสมจริง
ซีรีส์นี้เน้นฉากต่อสู้แบบดิบและสมจริง นักแสดงต้องฝึกการต่อสู้ล่วงหน้านานหลายเดือน ทำให้ทุกฉากแอ็กชันดูเข้มข้นและสมจริง
3. การเล่าเรื่องที่เข้มข้น
ซีรีส์มีโครงเรื่องที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยการหักมุม เนื้อหาผสมผสานระหว่างความดราม่าและความตื่นเต้นได้อย่างลงตัว
4. ธีมและสไตล์การนำเสนอ
“My Name” ใช้โทนสีและบรรยากาศที่หนักแน่น ถ่ายทอดโลกของอาชญากรรมที่โหดร้ายผ่านการกำกับภาพที่สวยงาม
ข้อสังเกตและจุดอ่อน
การเล่าเรื่องในบางช่วง
แม้ว่าเนื้อเรื่องจะเต็มไปด้วยความเข้มข้น แต่บางช่วงอาจเล่าเรื่องช้าเกินไปเพื่อสร้างอารมณ์ดราม่าพล็อตบางส่วนที่คาดเดาได้
ธีมการล้างแค้นอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการซีรีส์ ทำให้บางฉากหรือโครงเรื่องดูเป็นไปตามสูตรสำเร็จ
สรุปรีวิว
My Name เป็นซีรีส์ที่เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบแอ็กชันและดราม่าที่เข้มข้น แม้โครงเรื่องอาจไม่ได้แปลกใหม่ แต่ด้วยการแสดงที่โดดเด่นของฮันโซฮีและฉากแอ็กชันสมจริง ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้สามารถครองใจผู้ชมได้อย่างง่ายดาย
คะแนน: 8/10
ซีรีส์ที่ถ่ายทอดทั้งพลังและความดิบผ่านการแสดงและการกำกับที่ยอดเยี่ยม
แนะนำให้รับชมทาง Netflix เพื่อสัมผัสประสบการณ์แอ็กชันที่แตกต่างจากซีรีส์เกาหลีทั่วไป