Edit Content
Click on the Edit Content button to edit/add the content.

ดูหนัง The Recruit ซีซัน 2 (2025) – ทนายสายลับกับภารกิจสุดป่วนในเกาหลี

เลือกตอน EP

รีวิวซีรีส์ The Recruit ซีซัน 2 (2025) – ทนายสายลับกับภารกิจสุดป่วนในเกาหลี

 

The Recruit ซีซัน 2 ออกฉายทาง Netflix เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2025 เป็นภาคต่อของซีรีส์แนวแอ็กชัน-คอมเมดี้-สายลับที่ตามติดชีวิตของทนายความ CIA หน้าใหม่ โอเว่น เฮนดริกส์ (Owen Hendricks) รับบทโดย โนอาห์ เซนตินีโอ (Noah Centineo) ซีซันนี้พาโอเว่นออกจากสำนักงานไปสู่ภารกิจภาคสนามที่เต็มไปด้วยอันตรายและความวายป่วงในประเทศเกาหลีใต้

น่าเสียดายที่แม้จะมีแฟน ๆ ติดตามและรอคอย แต่ในเดือนมีนาคม 2025 ทาง Netflix ได้ประกาศยกเลิกการสร้างซีรีส์ The Recruit หลังจากซีซัน 2 นี้ ทำให้ซีซันนี้เป็นบทสรุปของเรื่องราว

 

เรื่องย่อ:

เรื่องราวในซีซัน 2 ดำเนินต่อจากเหตุการณ์พลิกผันในตอนจบของซีซันแรก ที่ชีวิตของ โอเว่น เฮนดริกส์ ทนายความหนุ่มของ CIA ผู้ซึ่งมักจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เกินความสามารถของตัวเอง ได้เปลี่ยนจากงานเอกสารในออฟฟิศไปสู่ภารกิจลับระดับโลก

ในซีซันนี้ โอเว่นถูกส่งตัวไปยัง กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อสืบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับจดหมายขู่ลึกลับจากอดีตสายลับของ CIA ที่ต้องการเปิดโปงความลับของหน่วยงาน หากพวกเขาไม่ช่วยเขาทำภารกิจส่วนตัวที่อันตราย

โอเว่นต้องร่วมมือกับ จาง คยุน (Jang Kyun) เจ้าหน้าที่จากสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติเกาหลี (NIS) รับบทโดย ยู แท-โอ (Teo Yoo) ซึ่งเขาเข้ามาพัวพันกับโอเว่นในข้อตกลง “graymail” ที่คล้ายกับเหตุการณ์ในซีซัน 1 โดยจาง คยุน ต้องการความช่วยเหลือจาก CIA เพื่อช่วยเหลือภรรยาของเขา นัน ฮี (Nan Hee) ที่ถูกจับตัวไปโดยแก๊งยากูซ่า พร้อมกับขู่ว่าจะเปิดเผยข้อมูลลับของสหรัฐฯ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ

ภารกิจนี้พาโอเว่นเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้กับแก๊งอาชญากรรม หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ และผู้เล่นลึกลับจากรัสเซีย รวมถึงการเผชิญหน้ากับ นิชก้า (Nichka) ตัวละครที่เคยปรากฏในซีซัน 1 ที่กลับมาพร้อมแผนการซับซ้อนยิ่งขึ้น โอเว่นต้องใช้ไหวพริบ ความกล้าหาญ (และโชคเล็กน้อย) เพื่อเอาชีวิตรอดจากภารกิจสุดอันตรายนี้ และปกป้องทั้งชีวิตตัวเองและข้อมูลลับของ CIA

 

สิ่งที่น่าสนใจใน The Recruit ซีซัน 2:

 

  • แอ็กชันและสถานที่ใหม่: ซีซันนี้เพิ่มความเข้มข้นของฉากแอ็กชัน และพาโอเว่นไปผจญภัยในสถานที่แปลกใหม่และน่าสนใจอย่างเกาหลีใต้ ทำให้ได้เห็นการต่อสู้ การไล่ล่า และสถานการณ์ที่แตกต่างจากซีซันแรก

  • เคมีระหว่างตัวละคร: การร่วมงานกันของ โนอาห์ เซนตินีโอ และ ยู แท-โอ สร้างเคมีที่น่าสนใจระหว่างทนายความ CIA จอมเปิ่นกับสายลับเกาหลีผู้ลึกลับ ซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวและเพิ่มอรรถรส

  • ความตลกและสถานการณ์สุดป่วน: ซีรีส์ยังคงรักษาจุดเด่นในเรื่องของคอมเมดี้ โดยเฉพาะสถานการณ์ตลกร้ายที่โอเว่นมักจะเข้าไปพัวพัน รวมถึงมุกตลกจากเพื่อนร่วมงานใน CIA ที่ยังคงเรียกเสียงหัวเราะได้

  • การพัฒนาตัวละครโอเว่น: ซีซันนี้แสดงให้เห็นพัฒนาการของโอเว่น จากทนายความที่เก้งก้างไปสู่การเป็นสายลับภาคสนามที่เริ่มมีความสามารถมากขึ้น แม้จะยังคงความเปิ่นในแบบของเขา

  • นักแสดงสมทบที่คุ้นเคยและหน้าใหม่: นักแสดงจากซีซัน 1 อย่าง วอนดี้ เคอร์ติส-ฮอลล์ (Vondie Curtis-Hall), อาตี มานน์ (Aarti Mann), โคลตัน ดันน์ (Colton Dunn), และ ไฟเวล สจ๊วต (Fivel Stewart) ยังคงกลับมารับบทบาทเดิม พร้อมกับเสริมทัพด้วยนักแสดงชาวเกาหลีอย่าง คิม ยองอา (Kim Young-ah) และ ชิน โด-ฮยอน (Shin Do-hyun) ที่ช่วยเพิ่มสีสัน

 

ข้อสังเกต:

 

  • จำนวนตอนที่สั้นลง: ซีซัน 2 มีเพียง 6 ตอน เทียบกับ 8 ตอนในซีซัน 1 ทำให้การเดินเรื่องค่อนข้างรวดเร็วและบางปมอาจจะยังไม่ถูกคลี่คลายอย่างสมบูรณ์

  • บทสรุปที่ไม่สมบูรณ์: เนื่องจากซีรีส์ถูกยกเลิกหลังซีซัน 2 ทำให้ตอนจบของซีซันนี้เป็นแบบ cliffhanger ที่ทิ้งปมและคำถามสำคัญไว้มากมาย ซึ่งอาจสร้างความผิดหวังให้กับผู้ชมที่ต้องการบทสรุปที่ชัดเจน

  • ความสมจริงของโลกสายลับ: แม้จะเป็นซีรีส์สายลับ แต่ก็ยังคงเน้นความบันเทิงและความโอเวอร์เล็กน้อยในบางสถานการณ์ ซึ่งอาจไม่ถูกใจผู้ชมที่ชอบซีรีส์สายลับที่สมจริงและซีเรียสมากกว่า

 

สรุป:

 

The Recruit ซีซัน 2 เป็นซีรีส์ที่ยังคงมอบความบันเทิงให้กับแฟน ๆ ที่ชื่นชอบความป่วนของโอเว่น เฮนดริกส์ และฉากแอ็กชันในโลกสายลับ ด้วยการย้ายฉากไปเกาหลีใต้และการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามใหม่ ๆ ซีซันนี้ก็ยังคงมีจังหวะที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน อย่างไรก็ตาม การที่ซีรีส์ถูกยกเลิกหลังจากซีซันนี้ ทำให้ตอนจบของเรื่องราวค้างคาและเป็นสิ่งที่น่าเสียดายสำหรับแฟน ๆ

คะแนน: 6.5/10

คุณรู้สึกอย่างไรกับการที่ซีรีส์ที่ติดตามถูกยกเลิกไปทั้งที่ยังมีปมค้างคาแบบนี้บ้างครับ?